วัดพระสิงห์วรวิหาร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัดชื่อดังที่ต้้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติมาอย่างยาวนาน เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันไปกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กันแบบไม่ขาดสายเลยก็ว่าได้ โดยวัดพระสิงห์ นั้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ที่ตั้งอยู่ใน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเองครับ และในวันนี้เราจะมาพาทุกท่านไปเที่ยวชมกันว่าที่วัดแห่งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้าง ถ้าพร้อมแล้ว หวยสด ว่าเรารีบไปดูกันเลยดีกว่า
ประวัติความเป็นมาของ วัดพระสิงห์วรวิหาร
วัดพระสิงห์ หรือมีชื่อเต็ม ๆ ว่า วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร นั้นเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นวัดที่ได้ประดิษฐาน พระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ และแผ่นดินล้านนามาอย่างช้านาน พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ “เชียงแสนสิงห์หนึ่ง วัดพระสิงห์ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงามเป็นที่รู้จักและคุ้นชื่อกันเป็ฯอย่างดี ในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์หรืองานประเพณีขึ้นปีใหม่เมือง ทางส่วนราชการ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบกและทำการแห่ไปรอบเมืองเพื่อให้ผู้ศรัทธา และประชาชนได้พากันมาสรงน้ำเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ตามคติทางล้านนา คนเกิดปีมะโรงต้องมาไหว้พระสิงห์ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

โบสถ์
สำหรับโบสถ์นั้นเท่าที่ เว็บหวยสด เห็นนั้นเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุขโถงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยลักษณะตัวอาคารและการตกแต่งเป็นแบบศิลปะล้านนา ด้านข้างจะแลเห็นหน้าต่างขนาดใหญ่ตีเป็นช่องแบบไม้ระแนง ส่วนภายในเป็นหน้าต่างจริง มีลายปูนปั้นที่บริเวณ ซุ้มประตูทางเข้า หน้าบันไดมีลักษณะเป็นวงโค้งสองอันเหนือทางเข้าประกบกัน เรียกกันว่า คิ้วโก่ง เหนือคิ้วโก่งนั้นจะเป็น วงกลม จำนวนสองวงคล้ายดวงตา ที่เสาและส่วนอื่นๆ ก็จะมีปูนปั้นนูน มีรักปั้นปิดทองวิจิตรพิสดารมาก
หอไตร
โดยหอไตรนั้นสร้างออกมาเป็นแบบอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ โดยที่ผนังด้านนอกถูกประดับด้วยทวยเทพปูนปั้น ทำออกมาเป็นรูปเทพพนมยืน บ้างก็กันเหาะอยู่โดยรอบ ๆ หอไตร เป็นการสร้างโดยฝีมือช่างศิปสมัยพระเมืองแก้ว เมื่อประมาณ พ.ศ. 2476 เจ้าแก้วนวรัฐได้ทำการซ่อมแซมขึ้นใหม่ โดยให้ฐานหอไตรปั้นเป็นลายลูกฟักลดบัว ภายในถูกประดับด้วยรูปสัตว์หิมพานต์ เช่น นางเงือกมีปีก คชสีห์มีปีก และกิเลน เป็นต้น พร้อมกับมีลายประจำยามลักษณะคล้ายกับลายสมัยราชวงศ์เหม็งของจีน

วิหารลายคำ
วิหารลายคำนั้นมีลวดลายแบบปูนปั้นที่สวยงามปราณีตบรรจงอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงฝีมือของช่างที่อยุ่ในยุคนั้นว่าเจริญถึงที่สุด ด้านตัววิหารลายคำสร้างตามแบบศิลปกรรมของภาคเหนือ มีรูปปั้นพญานาค 2 ตัว อยู่ที่บันไดหน้า และใกล้ ๆ กับพญานาค จะมีรูปปั้นสิงห์ 2 ตัว และบริเวณภายในนั้นเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธสิหิงค์” บนผนังที่อยู่ด้านหลังพระประธาน เสาหลวง (เสากลม) และเสาระเบียง (เสาสี่เหลี่ยม) จะมีภาพลายทองพื้นแดงเป็นลวดลายต่างๆ อยู่เต็มไปหมด ส่วนด้านหลังพระประธาน ยังมีรูปปราสาทแวดล้อมไปด้วยมังกรและหงส์ มีความสวยสดงดงามน่าชมยิ่ง และผนังวิหารด้านเหนือมีภาพจิตรกรรมเ เรื่องสังข์ทอง ด้านใต้เป็นเรื่องสุวรรณหงส์ นับว่าเป็นภาพที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสังข์ทองพบเพียงแห่งเดียวที่นี่
ประวัติพระพุทธสิหิงค์
พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ นั้นเป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางสมาธิ สูง 79 เซนติเมตร ซึ่งมีหน้าตักกว้างที่ 63 เซนติเมตร โดยเป็นศิลปะแบบลังกา ตามประวัติที่ผ่านมากล่าวว่า พระเจ้าสีหฬะ พระมหากษัตริย์แห่ง ลังกาทวีป ทรงได้สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 700 ต่อมา จากนั้นเจ้านครศรีธรรมราชได้ไปขอมาถวายแก่พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย จนเมื่อสมเด็จ พระบรมราชาธิราชที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยา นั้นได้กรุงสุโขทัยเป็นเมืองขึ้น จึงได้ทำการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐาน ที่กรุงศรีอยุธยา โดยต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมืองกำแพงเพชร และเมืองเชียงราย เมื่อพระเจ้าแสนเมืองเสด็จมา เจ้านครเชียงใหม่จึงได้ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้ หลังจากนั้นอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่เชียงใหม่พร้อมกับพระแก้วมรกต

และเมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตีเมืองเชียงใหม่ได้เมื่อ พ.ศ. 2205 ได้ทรางอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ที่ วัดพระศรีสรรเพชญ์กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานถึง 105 ปี เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แก่พม่าใน พ.ศ. 2310 ทำให้ชาวเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปที่เชียงใหม่ เมื่อถึงตอนที่มณฑลพายัพได้กลับมาเป็นของไทย ในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์อยู่หัวสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทโปรดให้อัญเชิญลงมา ที่ยังกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2338 ปัจจุบันั้นพระพุทธสิหิงค์ ได้ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล โดยจะมีพิธีการเชิญออกมาช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ประชาชนชาวไทยได้สักการะและทำการสรงน้ำ ส่วนพระสิงห์ที่ประดิษฐานที่วัดแห่งนี้เป็นพระพุทธรูปจำลอง
จากการที่เราพาไปทำความรู้จักกับ วัดพระสิงห์วรวิหาร กันแล้ว จะทำให้เห็นได้ว่านอกจากจังหวัดเชียงใหม่นั้นจะเป็นสถานที่รวมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีวัดสวยและศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกมากมายอีกด้วยครับ ดังนั้นหากใครได้ไปเที่ยวเชียงใหม่กันแล้ว อย่าลืมลองแวะไปกราบไหว้พระพุทธสิหิงค์ในวิหารลายคำ วัดพระสิห์วรมหาวิหาร กันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ Huaysod คงต้องขอตัวลากันไปก่อน กลับมาพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
หากท่านสนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งกับเรา สามารถสมัครสมาชิกหวยสด ได้แล้ววันนี้